จากธุรกิจเล็กๆ เปิดร้านผ่าน Facebook เพจ เพียงไม่กี่เดือนก็สร้างรายได้ทะลุเป้า กลายเป็นแบรนด์ดัง สินค้าเป็นที่นิยมได้ ซึ่งหากไปฟังบทสัมภาษณ์จากเจ้าของธุรกิจหลายๆคนก็ให้คำตอบว่า เริ่มต้นธุรกิจจากเฟสบุ๊คเพจเพียงอย่างเดียว
เอ้า!! จะช้าอยู่ทำไม ไปเปิดร้านผ่านเฟสบุ๊คกันเลย >> แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ อย่าเพิ่งใจร้อนไป
การจะเริ่มต้นทำธุรกิจ เมื่อรู้แล้วว่าจะขายอะไร ก็จะมาถึงขั้นตอนที่ว่า จะขายที่ไหน หากตั้งใจว่าจะขายผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเดียว Facebook เป็นหนึ่งในช่องทางการขายหรือช่องทางโปรโมทสินค้า ซึ่งแต่ก่อนอาจจะพูดได้ว่า ขายของผ่าน Facebook ลงทุนไม่เยอะ ใช้เวลาไม่นาน ได้ผลตอบแทนดีกำไรเยอะ แต่ตอนนี้คนที่ใช้เฟสบุ๊คในการขายสินค้า ต่างรู้ดีว่าไม่ใช่แบบนั้นแล้วครับ การทำตลาด โปรโมทสินค้า ขายของผ่านเฟสบุ๊คเริ่มใช้เงินเยอะขึ้น เพื่อการเข้าถึงกลุ่มคนที่มากขึ้นหรือเท่าเดิม ด้วยจำนวนคู่แข่งที่มากขึ้น และธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ต่างทุ่มทุนกับการโปรโมทผ่านเฟสบุ๊คด้วยกันทั้งนั้น ถึงแม้ว่าจะมี social network อื่นๆเปิดตัวใหม่เรื่อยๆ Facebook ก็ยังคงเป็น King of Social Network ยอดนิยมอันดับหนึ่งของคนไทย สินค้าใครดีมีคุณภาพ บริการประทับใจ มีเทคนิคการโปรโมทเจ๋ง ยังไงก็ไปได้อีกยาว
แต่หากธุรกิจของคุณโตขึ้น ขายดีขึ้น มีลูกค้าเยอะขึ้น และร้านค้าลงรูปอัพเดทสินค้าใหม่อยู่ตลอด หากจะให้ลูกค้าดูแต่ภาพสินค้าที่อัพเดทในหน้าเพจเฟสบุ๊คเพียงอย่างเดียว อาจจะดูได้ไม่ครบทั้งหมด หรือบางครั้งโพสต์นั้นๆ อาจจะไม่ขึ้นในหน้าเพจของลูกค้าก็ได้ ทางร้านค้าควรทำเว็บไซต์เอาไว้รวบรวมสินค้าทั้งหมดที่มี เปรียบเหมือนแคทตาล็อคสินค้า มีรายละเอียดสินค้าครบถ้วน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกดูสินค้าได้ง่ายขึ้น หรือทำให้เป็นเว็บไซต์ e-commerce แบบเต็มตัวไปเลย ให้มีระบบสั่งซื้อผ่านทางหน้าเว็บไซต์ แสดงจำนวนสต็อกสินค้าที่มี เพื่อจะได้สะดวกทั้งเจ้าของร้านและลูกค้า ไม่ต้องมานั่งถามตอบกันหลายๆครั้งว่าตัวนี้มีไหมคะ หมดหรือยังคะ เป็นการประหยัดเวลาไปด้วย และข้อดีของการมีเว็บไซต์ก็คือความน่าเชื่อถือ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นด้วย
เมื่อมีเว็บไซต์แล้ว ก็จะโปรโมทสินค้าได้ง่ายขึ้นอีก ช่องทางโปรโมทเว็บมีทั้งฟรีและเสียเงินครับ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาผ่าน Google Adwords ตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า คุ้มค่ากว่า หรือ การทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆของ Google เมื่อมีคนอยากหาสินค้าประเภทนั้นๆแล้วค้นหาใน Google ถ้าเว็บไซต์ของคุณติดอันดับด้วย แน่นอนว่ายอดขายต้องเกิดขึ้นตามมาแน่
อ้อ! ลืมข้อสำคัญไปครับ การมีเว็บไซต์คุณจะสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้า หรือคนที่เข้ามาเว็บไซต์ของคุณได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลลูกค้า เพื่อนำไปทำ re-marketing tracking พฤติกรรมคนที่เข้ามาเว็บไซต์ ว่าสินค้าประเภทไหนเป็นที่นิยมที่สุด หรือในกรณีที่มีคนเข้าดูสินค้าชิ้นนี้เยอะ แต่ยอดสั่งซื้อกลับไม่มีเข้ามา หากเรามีเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์อย่าง Google Analytic เราก็จะรู้ได้เลยว่า เป็นเพราะอะไร จะได้นำมาพัฒนาธุรกิจได้ดียิ่งขึ้นด้วยนะครับ
เอาไว้ผมจะเขียนเรื่องการโปรโมทเว็บไซต์ในบทความต่อๆไปนะครับ